มาตรฐานขายเหล็กอุตสาหกรรมของระบบอเมริกันเป็นอย่างไร

เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเหล็กและผู้ขายเหล็กได้ทำการผลิตเหล็กชนิดต่าง ๆ ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมากแต่ละบริษัทพยายามที่จะผลิตและขายเหล็กให้มีคุณภาพต่างๆ กันตามประเภทของการใช้งาน ดังนั้นจึงเป็นความยากลำบากของผู้ใช้ที่จะเลือกใช้เหล็ก ให้ตรงกับความต้องการของตน จึงได้มีการกำหนดชนิดและปริมาณส่วนผสมไปในเนื้อเหล็ก โดยใช้สัญลักษณ์ของธาตุและตัวเลขเป็นตัวชี้บอกจำนวนปริมาณของส่วนผสมที่มีอยู่จึงได้เกิดเป็นมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมขึ้น มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมได้กำเนิดมาหลายมาตรฐาน เนื่องจากประเทศบริวารในเครือของตนเองหรือประเทศที่มี การจัดการอุตสาหกรรมแบบเดียวกันยอมรับและนำไปใช้

มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมระบบอเมริกัน

สำหรับมาตรฐานขายเหล็กอุตสาหกรรมระบบอเมริกันนั้น มี 2 ประเภทหลักๆ คือ

  1. ระบบ SAE (Society of Automotive Engineer)

เป็นมาตรฐานขายเหล็กของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของอเมริกา โดยจะนำหน้าด้วยตัวอักษร SAE แล้วตามด้วยตัวเลข 4-5 หลัก โดยตัวเลขแต่ละหลักนั้นใช้บอกความหมายต่างๆ ดังนี้

ตัวเลขหลักที่ 1 หมายถึง ชนิดของมาตรฐาน

  • เลข 1 หมายถึง เหล็กกล้าคาร์บอน
  • เลข 2 หมายถึง เหล็กกล้านิเกิล
  • เลข 3 หมายถึง เหล็กกล้าผสมนิเกิลและโครเมียม
  • เลข 4 หมายถึง เหล็กกล้าผสมโมลิบดินั่ม
  • เลข 5 หมายถึง เหล็กกล้าผสมโครเมียมและวานาเดี่ยม
  • เลข 6 หมายถึง เหล็กกล้าผสมทังสเตน
  • เลข 8 หมายถึง เหล็กกล้าผสมนิเกิลโครเมี่ยมและโมลิบดินั่ม
  • เลข 9 หมายถึง เหล็กกล้าผสมซิลิกอนและแมงกานีส

ตัวเลขหลักที่ 2 เป็นค่าปริมาณของตัวเลขหลักที่ 1 หรือใช้บอกปริมาณสารที่ผสมในเหล็กกล้า มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) ตัวเลขหลักที่เหลือเป็นตัวบอกปริมาณของคาร์บอนที่ผสมในเหล็กกล้าโดยจะต้องหารด้วย 100 เสมอ มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ (%)

  1. ระบบ AISI (American Iron and Steel Institute)

เป็นมาตรฐานของสถาบันเหล็กและการขายเหล็กกล้าของอเมริกาที่พัฒนามาจากระบบ SAE ค่ามาตรฐานต่างๆ จึงเหมือนกันแต่ต่างกันตรงที่ ระบบ AISI จะมีตัวอักษรนำหน้าตัวเลข เช่น AISI E 3310 ซึ่งอักษรเหล่านี้จะบอกถึงกรรมวิธีในผลิตเหล็กว่าผลิตจากเตาชนิดใด โดยตัวอักษรต่างๆ มีความหมายดังนี้ต่อไปนี้

  • A หมายถึง เหล็กที่ผลิตได้จากเตา Bessemer ชนิดที่เป็นด่าง
  • B หมายถึง เหล็กที่ผลิตได้จากเตา Bessemer ชนิดที่เป็นกรด
  • C หมายถึง เหล็กที่ผลิตได้จากเตา Open Hearth ชนิดที่เป็นด่าง
  • D หมายถึง เหล็กที่ผลิตได้จากเตา Open Hearth ชนิดที่เป็นกรด
  • E หมายถึง เหล็กที่ผลิตได้จากเตาไฟฟ้า